ความเป็นมาของ จักรยานเบอร์ดี้
จักรยานเบอร์ดี้ เริ่มต้นขึ้นจากเป้าหมายร่วมกันของ Markus Riese and Heiko Müller. ที่จะพิชิตรางวัล Hesse Innovation Prize จึงทำให้ 2 หนุ่มจากมหาวิทยาลัย Darmstadt ใช้พื้นที่โรงรถธรรมดาๆ ของครอบครัวเป็นที่พัฒนาจักรยานด้วยความรู้ด้านวิศวกรรมของทั้งสองคนผนวกเข้ากับความคิดสร้างสรรค์และแรงผลักดันที่จะคว้ารางวัล Hesse Innovavation Prize 1993 และด้วยแรงผลักดันนี้เองที่ส่งให้เขาทั้งสอง ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมจักรยานระดับโลก และสร้างแบรนด์จักรยานสายพันธุ์เยอรมันให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น
Video สาธิตจักรยานและวิธีการพับจักรยาน Birdy ในยุคแรก
ทำความรู้จักกับ จักรยานเบอร์ดี้ แต่ละรุ่น
นับตั้งแต่ที่ Markus Riese and Heiko Müller. เริ่มตัดสินใจอยากจะสร้างจักรยานพับของตัวเองเพื่อชิงรางวัล Hesse Innovation Prize ในปี 1993 จนได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่าง George Lin ในงาน Eurobike 1994 และผลิตจักรยาน birdy classic รุ่นท่อกลมออกสู่ตลาดในปี 1995 จนถึงวันนี้ birdy ได้มีการพัฒนาครั้งยิ่งใหญ่มาแล้วถึง 3 ครั้งด้วยกัน โดยครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในปี 2005 ออกมาในเวอร์ชั่นที่หลายคนรู้จักกันดีในชื่อ Birdy monocoque ซึ่งถือเป็นการพลิกรูปโฉมของ birdy ให้ดูสปอร์ตและทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงเก็บไว้ซึ่งหัวใจของการออกแบบ นั่นคือความเป็นจักรยานเสือภูเขา ที่ยังคงให้ประสบการณ์ที่ดีขี่นุ่ม และมีสมรรถนะที่พร้อมลุยในทุกเส้นทาง จนกระทั่งปี 2015 ซึ่งเป็นการพัฒนาจักรยานพับ birdy สู่เจเนอร์เรชั่นที่ 3 มีการพัฒนาปรับปรุงมากมาย เพื่อให้ birdy เป็นจักรยานพับที่ให้ประสบการณ์ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ ทั้งในแง่ความเร็วและความนุ่มนวล
จักรยานพับ birdy มีกี่รุ่น
จริงๆ แล้วจักรยานพับ birdy นั้นมีอยู่หลายรุ่นด้วยกัน ถึงแม้หน้าตาจะดูคล้ายๆ กัน แต่ทว่า รุ่นต่างๆ ของ birdy จะถูกแบ่งได้ด้วยชุดขับ รูปร่างเฟรม และความพิเศษบางอย่าง ซึ่ง birdy ในโมเดลมาตรฐานจะมีอยู่ด้วยกัน 2 รุ่น คือ Monocoque และ New Classic ซึ่งความแตกต่างของแต่ละรุ่นสามารถดูได้จากสีและ ชุดขับเคลื่อน โดยปัจจุบันจักรยาน birdy ของ Pacific Cycles จะแบ่งเป็นรุ่นได้ตามนี้
Birdy Monocoque Standard
มีให้เลือกทั้ง 8 สปีดและ 9 สปีด ราคาตอนเปิดตัวเริ่มต้นที่ 47,000 บาท ระบบเบรกจะเป็น V-Brake วงล้อขนาด 18 นิ้ว จานหน้า 56T เฟือง 11-32T คอจะเยื้องไปด้านหน้า 10 องศา เหมาะสำหรับปั่นในเมือง นั่งหลังตรงสบายๆ ชุดขับเคลื่อนจะใช้ของ Shimano Alivio น้ำหนักราวๆ 10.9 กิโลกรัม
Birdy Monocoque Sport
รุ่น sport นี้จะใช้ระบบเบรกเป็น Disc Brake ชุดขับเคลื่อนแบบ 10 สปีด จานหน้า 52T เฟือง 11-34T คอจะเยื้องหน้าประมาณ 25 องศา ให้ความรู้สึกในการปั่นที่สนุกมากขึ้น และด้วยระบบเบรกแบบ Disc Brake จึงทำให้ทุกการเบรกมั่นใจได้ในทุกเส้นทาง น้ำหนักราวๆ 10.6 กิโลกรัม
Birdy Monocoque Touring
รุ่นนี้จะมาพร้อมเกียร์ดุมของ sram dual drive 3 speed ทำงานร่วมกัน 2 ระบบ คือเป็นเกียร์ดุมแบบ 3 สปีดและแบบตีนผี 8 สปีด จึงถือได้ว่าเป็นรุ่นที่เหมาะกับเส้นทางที่หลากหลาย มาพร้อมจานหน้า 52T ระบบเบรกจะเป็น V-Brake คอจะเยื้องหน้าเพียง 10 องศา เพื่อให้ได้ท่านั่งที่สบาย เหมาะสำหรับการเดินทางไกล น้ำหนักราวๆ 11.8 กิโลกรัม
New Classic Birdy
new classic birdy คือการฟื้นชีวิตให้กับ birdy ปี 1994 ที่หยุดผลิตไปในปี 2005 กลับมาโลดแล่นและอยู่ในครอบครองของคนที่รักจักรยาน birdy อีกครั้ง และยังถือเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปี จึงได้มีการนำ birdy classic มาปรับปรุงพัฒนาใหม่ ตั้งแต่ท่อเฟรมที่ใหญ่ขึ้น คอด้านหน้าที่ใช้ขนาด oversize ชุดคอแบบ integrated และเพิ่มความแข็งแรงให้จุดเชื่อมต่างๆ มากขึ้น โดยรุ่น new classic นี้ออกมาด้วยกัน 2 สี ซึ่งเป็นสีที่เคยผลิตออกมาในปี 1994 คือสีแดง และสีน้ำเงิน navy blue ชุดขับเป็น Shimano Acera 8 สปีด จานหน้า 52T เฟือง 11-32T ใช้เบรกแบบ V-Brake คอเยื้องด้านหน้า 17 องศา น้ำหนักราวๆ 10.9 กิโลกรัม
New Classic Birdy Japanese Ver.
ไม่ว่าจักรยานแบรนด์ไหนๆ ถ้าเป็นญี่ปุ่นย่อมมีอะไรแตกต่างจากชาติอื่นเสมอ และนั่นจึงทำให้เกิด birdy สีพิเศษ 2 สีนี้ขึ้นคือสี Metalica และ Graphite ซึ่งก็จะมีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองที่ดูโดดเด่น และดูสุขุมในแบบเท่ๆ มากขึ้น ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ก็จะเหมือนกับ new classic birdy
New Classic Birdy Vogue Limited edition
birdy รุ่นนี้น่าจะเป็นรุ่นที่คนไทยน่าภูมิใจมากที่สุด เพราะเป็นรุ่น Limited สัญชาติไทย ถูกออกแบบขึ้นเพื่อฉลองนิตยสาร Vogue Thailand ครบรอบ 1 ปี ถูกผลิตออกมาเพียง 100 คัน ที่แต่ละคันจะมีหลายเลขกำกับ ที่ตัวเฟรมจะมีลายเซ็นของ Markus Riese กำกับอยู่ด้วย ที่สำคัญตรงโลโก้ birdy ยังมีแถบสีของซัมเมอร์ 2014 Vogue Thailand พาดไว้เป็นเอกลักษณ์ให้แตกต่างเด่นชัดจาก birdy ทุกรุ่น และที่ทำให้ดูทรงคุณค่ากว่านั้นไปอีก คือขาตั้งจักรยานไม้สัก ที่สั่งทำขึ้นพิเศษเพื่อ birdy รุ่นนี้โดยจะมีหมายเลขกำกับตรงกับหมายเลขของรถด้วย ราคาเปิดตัว 67,800 บาท
Birdy Colorplus Limited Edition
ถ้าจะให้พูดถึง birdy ที่เป็นที่สุด คงต้องยกให้ birdy colorplus limited edition สุดยอดของความ luxury ที่จะปรากฎได้บนจักรยานหนึ่งคัน Colorplus เป็นบริษัทที่มีผู้ก่อตั้งหลงไหลและคลั่งไคล้ในจักรยาน birdy มากๆ ถึงขั้นไปทำความตกลงกับ Pacific Cycles ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ birdy เพื่อขอออกแบบ และแต่งตัว birdy ให้เป็น birdy ในแบบที่เค้าต้องการ
ในแต่ละปี เราจะเห็น birdy color plus limited สีใหม่ๆ ออกมาเฉิดฉายยั่วยวนใจ เพียงปีละ 1 สี และเพียงสีละ 100 คันแบบรันหมายเลข เนื้อสีที่ใช้เคลือบไปบนเฟรมของ birdy colorplus นั้นเป็นคุณภาพสีที่ใช้กันในรถสปอร์ตหรูๆ เท่านั้น ทุกส่วนของ birdy colorplus ถูกจัดแต่งอย่างพิถีพิถัน และไม่ได้จัดกันเฉพาะแค่หน้าตา แต่ว่ายังคำนึงถึง performance อีกด้วย ดูได้ตั้งแต่ล้อคาร์บอน ที่ออกแบบพิเศษของ colorplus โช็คอัพที่ออกแบบพิเศษและเครื่องเคราต่างๆ อีกมากมาย เพียงแค่จอดไว้ก็ฉายแวว luxury ออกมาอย่างน่าประทับใจ